10 ร้านค็อกเทล (Cocktail Bar) บรรยากาศดี กรุงเทพ-สมุทรปราการ

Publsihed Date : 2025-06-07

Tag : คาเฟ่บาร์

10 ร้านค็อกเทล (Cocktail Bar) บรรยากาศดี กรุงเทพ-สมุทรปราการ

หากคุณเป็นคนรักบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ พร้อมกับเครื่องดื่มค็อกเทลเลิศรสที่ผสมผสานความครีเอทีฟและความอร่อยเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบาร์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก บาร์ Roof Top หรือร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยลึก แต่ละที่ล้วนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 10 บาร์ค็อกเทลในกรุงเทพ ไปจนถึงสมุทรปราการ ที่นอกจากเครื่องดื่มจะอร่อยแล้ว ยังมีบรรยากาศดีจนต้องแวะเวียนมาลิ้มรสกันอีกแน่นอน

1. Raydus

Raydus_slide

Raydus Café & Bar คือจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักเครื่องดื่มครีเอทีฟและบรรยากาศสุดชิค ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Siam Mandarina บนถนนกิ่งแก้ว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ร้านนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างความเป็นคาเฟ่ในตอนกลางวันที่เสิร์ฟกาแฟสเปเชียลตี้และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง “Basque Cheese Thai Tea” หรือ “Biscoff Caramel Salted Egg” และเปลี่ยนโหมดเป็นบาร์ค็อกเทลในยามค่ำคืนด้วยเมนูสุดแปลกตาเช่น “Toothpaste” ที่ได้แรงบันดาลใจจากยาสีฟัน และ “99 Problems” ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้ นอกจากความโดดเด่นของเครื่องดื่มแล้ว Raydus ยังเป็น Pet-Friendly Space ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ พร้อมพื้นที่จัดกิจกรรมศิลปะและนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟ เช่น งาน “Painting & Cocktail Pairing Exhibition” ที่จับคู่ผลงานศิลปะกับค็อกเทลสูตรพิเศษ บรรยากาศภายในตกแต่งแบบมินิมอลลอฟท์ด้วยโทนสีสบายตา มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย เปิดบริการทุกวัน 08:00-24:00 น. 

2. Vesper Cocktail Bar

Vesper Cocktail Bar

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/vesperbkk

Vesper Cocktail Bar เป็นบาร์ค็อกเทลระดับพรีเมียมในย่านสีลม กรุงเทพฯ ที่โดดเด่นด้วยคอนเซปต์การผสมผสานความขัดแย้งลงในเครื่องดื่มอย่างลงตัว ภายใต้ธีม “Contrast” โดยมีคุณปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เทนเดอร์ระดับโลกเป็นผู้ดูแล บาร์แห่งนี้เคยติดอันดับ Asia’s 50 Best Bars และได้รับรางวัล LINE MAN Wongnai Users’ Choice ในปี 2021 เมนูค็อกเทลสร้างสรรค์อย่าง “Deep/Shallow” หรือ “LGBT/Male/Female” แสดงถึงเอกลักษณ์ผ่านรสชาติและเรื่องราว บรรยากาศสไตล์ยุโรปคลาสสิกด้วยโทนสีมืดและไฟสลัว เพิ่มความพิเศษด้วยเมนูอาหารอิตาเลียนจากร้านข้างเคียง 1919 Italian Bar & Restaurant เปิดบริการทุกวัน 17:30-02:00 น. ที่ซอยคอนแวนต์ เดินทางสะดวกทั้ง BTS ศาลาแดงและ MRT สีลม

3. The Bamboo Bar 

The Bamboo Bar

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100063684577664

The Bamboo Bar เป็นบาร์แจ๊สในตำนานแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ มีอายุเก่าแก่กว่า 70 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดของเอเชีย บรรยากาศภายในตกแต่งอย่างหรูหราแบบคลาสสิกด้วยไม้ไผ่และเฟอร์นิเจอร์หวาย พร้อมด้วยดนตรีแจ๊สสดทุกคืน เมนูค็อกเทลที่น่าสนใจ เช่น “The Bamboo Daiquiri” และ “Yuzu Espresso Martini” ที่ผสมผสานรสชาติไทยกับเทคนิคการผสมแบบสมัยใหม่ เปิดบริการทุกวันเวลา 17.00-01.00 น. (ศุกร์-เสาร์ถึง 02.00 น.) และมีกฎการแต่งกายสุภาพหลัง 18.30 น. เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศคลาสสิกและเสียงเพลงแจ๊สระดับโลก

4. 008 Bar

008 Bar

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100063684577664

008 Bar เป็นสปีคอีซี่บาร์สุดลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 11 ของตึก Eight Thonglor ในย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคสงครามโลกและบรรยากาศคลาสสิกแบบ Old Fashion ของทศวรรษ บาร์แห่งนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และเบาะหนังหรูหรา พร้อมมอบประสบการณ์การดื่มค็อกเทล Signature 19 เมนู ที่คิดค้นโดยมิลค์-ไพลิน สัจจานิตย์ บาร์เทนเดอร์สาวดีกรีแชมป์โลก ซึ่งแต่ละเมนูได้รับแรงบันดาลใจจากยุค Prohibition และสงครามโลก เช่น “1920s” (เนโกรนีรุ่นปรับโฉม) หรือ “Pyroblast” (ค็อกเทลรสชาติทรอปิคอล) เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-01.00 น. เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบบรรยากาศลึกลับและค็อกเทลคลาสสิกที่มีเรื่องราว

5. Joe’s Whisper

Joes Whisper

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/joeswhisper/

Joe’s Whisper เป็นบาร์สไตล์ Classic Old School ในย่านสีลมที่พาผู้มาเยือนย้อนกลับไปสู่บรรยากาศยุค 80-90s ด้วยการตกแต่งที่เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม แสงไฟสลัว และของสะสมวินเทจที่สร้างความรู้สึกคลาสสิก ร้านนี้โดดเด่นด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพ เช่น Squid Calamari, Tuna Tartare, และ Australian Wagyu Beef ที่เสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มคราฟต์แบบโฮมเมด นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดทุกวันเพื่อเพิ่มบรรยากาศการแฮงเอาต์ Joe’s Whisper เปิดบริการทุกวันเวลา 17:00 – 02:00 น. ใกล้ BTS ช่องนนทรี แต่ไม่มีที่จอดรถ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศย้อนยุคและต้องการมื้ออร่อยในราคาระดับ 501-1,000 บาทต่อคน

6. Revolucion Cocktail Bangkok

Revolucion Cocktail Bangkok

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/RevolucionCocktailBangkok/

Revolucion Cocktail Bangkok เป็นบาร์ค็อกเทลสไตล์ละติน-อเมริกาที่ตั้งอยู่ในซอยสาทร 10 บรรยากาศโดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบคิวบาเรโทร ผสมผสานความดิบของผนังปูนลอกกับขวดเหล้าเรียงรายกว่า 500 ชนิด ร้านนี้มีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “Revolucion Cocktail” ที่ผสมวอดก้า โรสแมรี่ เสาวรส และ Absinth เสิร์ฟพร้อมก้อนน้ำตาลด้านบน นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลครีเอทีฟอื่นๆ เช่น Lemon Tart และ Cherry Manhattan บาร์แห่งนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการเต้นซัลซ่าโดยนักเต้นระดับโลก เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 18:00-02:00 น. เดินทางสะดวกโดย BTS ลงสถานีสุรศักดิ์แล้วเดินต่อประมาณ 12 นาที เหมาะสำหรับคนที่อยากผ่อนคลายหลังเลิกงานหรือสังสรรค์กับเพื่อนในบรรยากาศคึกคัก

7. Thaipioka.bkk

Thaipioka

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/thaipiokabkk

Thaipioka เป็นบาร์ค็อกเทลสไตล์ Tropical Cocktail Bar ที่ตั้งอยู่บนชั้น 1 ของโรงแรม Salil Hotel ทองหล่อ ซอย 1 ในกรุงเทพฯ บรรยากาศของร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งที่เรียบหรูแต่แฝงความทันสมัย พร้อมเคาน์เตอร์บาร์ยาวที่นั่งได้ถึง 20 ที่ และมุมนั่งส่วนตัวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เมนูเครื่องดื่มที่นี่สร้างสรรค์จากผลไม้และพืชผักตามฤดูกาลของไทย ผสมผสานกับเทคนิคการทำค็อกเทลแบบเฉพาะตัว เช่น “เสือร้องไห้” ที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารอีสาน หรือ “Niam-Kumquat” ที่ใช้ใบเนียมและส้มจี๊ดเป็นส่วนผสมหลัก ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 19.00-02.00 น. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพบปะสังสรรค์ในบรรยากาศชิลล์ๆ หรือจะมานั่งคนเดียวก็ไม่น่าเบื่อ เพราะสามารถชมบาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่มไปด้วยได้ ด้วยคอนเซปต์การนำความเป็นเอเชียมาผสมผสานในเครื่องดื่มและบรรยากาศ Thaipioka จึงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับคนรักค็อกเทลที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ

8. The Lab Baar

The Lab Baar

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/thelabbaar

The Lab Baar เป็นบาร์สไตล์ Sci-Fi ที่ตกแต่งด้วยไฟนีออนเปลี่ยนสีและแสงสลัว ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง ตั้งอยู่ย่านราชพฤกษ์ (บางระมาด) ร้านนี้โดดเด่นด้วยค็อกเทลครีเอทีฟ เช่น Bounce Shooter Shot ที่มีลักษณะเหมือนลาวาแลมป์ และเมนูอาหารเช่น ซี่โครงหมูหมักซอสและกุ้งแช่น้ำปลา เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-01.00 น. (ปิดวันจันทร์) เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ หรือนั่งชิลกับเพื่อน

9. WOOBAR

Woobar at W Bangkok

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/woobarbkk/

WOOBAR คือบาร์และเลาจน์สุดชิคที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับความคลาสสิกอย่างลงตัว ตั้งอยู่ภายในโรงแรม W Bangkok ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นด้วยบรรยากาศสไตล์เมืองใหญ่ที่ผ่อนคลาย พร้อมด้วยค็อกเทลสร้างสรรค์จากบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ และดนตรีสดที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน ที่นี่เหมาะสำหรับการสังสรรค์กับเพื่อนหรือพักผ่อนหลังวันทำงานอันยาวนาน ด้วยการออกแบบที่หรูหราและบริการที่เป็นกันเอง WOOBAR จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรักไลฟ์สไตล์และการดื่มด่ำกับค่ำคืนอันน่าจดจำ

10. The Key Room No. 72

The Key Room No. 72

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/thekey.joshhotel

The Key Room No.72 เป็นค็อกเทลบาร์ลับสุดคลาสสิกซ่อนตัวอยู่ใน Josh Hotel ย่านอารีย์ โดยต้องใช้ Key Card พิเศษ (มีค่ามัดจำ 200 บาท) เพื่อเข้าสู่ห้องหมายเลข 72 ที่ตกแต่งแบบวินเทจด้วยโทนสีแดง-เขียวเข้ม เน้นบรรยากาศยุค 60s-70s พร้อมเสียงเพลงแจ๊สและฟังก์ บาร์แห่งนี้โดดเด่นด้วยค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของ Mr.Josh เจ้าของโรงแรม เช่น “Mr.Josh Journey” (วิสกี้สไตล์สก็อตแลนด์), “A Drop of Tokyo” (ผสมวาซาบิไซรัป), และ “Marilyn 1950s” (ค็อกเทลหวานอมเปรี้ยว) เปิดบริการทุกวัน 18:00-01:00 น. แนะนำให้จองล่วงหน้าเนื่องจากพื้นที่ไม่กว้างนัก เหมาะสำหรับการนั่งชิลล์หรือเดทแบบส่วนตัว

และนี่คือ 10 บาร์ค็อกเทลในกรุงเทพและสมุทรปราการที่เราคัดมาให้คุณได้ลองไปดูกันสักครั้ง! ไม่ว่าคุณจะชอบค็อกเทลคลาสสิก เมนูซิกเนเจอร์เฉพาะร้าน หรืออยากนั่งชิลดูวิวสวยๆ แต่ละที่ที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ล้วนแต่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร อย่าลืมแวะไปลองดื่มด่ำกับรสชาติและบรรยากาศด้วยตัวเอง ใครใกล้ไหนก็สามารถไปที่นั่นได้ เพราะบาร์เหล่านี้อาจกลายเป็นร้านนั่งชิลล์ประจำของคุณก็เป็นได้!