ชา มีกี่ประเภท มีสรรพคุณ รสชาติอย่างไร ควรดื่มตอนไหน ?
Publsihed Date : 2024-08-25
Tag : ชา
สำหรับคนเอเชียแล้ว “ชา” เป็นเครื่องดื่มที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ แต่ชาที่เราดื่มอยู่และเห็นผ่านตากันทุกวันนั้นมีกี่ประเภทกันแน่ แต่ละประเภทแตกต่างต่างกันอย่างไร ? ในบทความนี้เราจะมาตอบคำถามนี้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย จดจำได้ง่ายกัน
ชา
ชาทุกชนิดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดมาจากต้นชาชนิดเดียวกันที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า camellia sinensis ชาชนิดนี้มีต้นกำเนิดในภาคใต้ของจีนเมื่อหลายพันปีที่ก่อน ชานั้นได้ถูกค้นพบและนำมาเป็นเครื่องดื่มได้หลาย 100 ปีแล้ว ชานั้นสามารถแบ่งออกมาได้ 2 สายพันธุ์หลัก ชาจีน (camellia sinensis var. sinensis) และชาอัสสัม (camellia sinensis var. assamica)
ชาเขียว ชาดำ ชาขาว ชาอู่หลง ชาผู่เอ๋อร์ และชาม่วง นั้นล้วนมีต้นกำเนิดมาจากต้นชา camellia sinensis โดยความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นสี ลักษณะและรสชาติของชาเหล่านี้เกิดขึ้่นจากแหล่งที่ปลูก ลักษณะการเก็บเกี่ยว ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยว การทำให้แห้ง วิธีการหมัก การบดและอื่น ๆ
ชาเขียว (Green Tea)
ชาเขียว คือ ใบชาที่ไม่ผ่านการหมัก หลังจากถูกเก็บเกี่ยวแล้วจะถูกนำไปอบ นึ่งหรือคั่วทันทีทั้งนี้ก็เพื่อหยุดกระบวนการออกซิเดชั่น ให้ใบชายังคงมีสีเขียวสดใสและคงรสชาติอ่อน ๆ กลิ่มหอมที่ต้องการไว้ได้ ปริมาณคาเฟอีนในชาเขียวมีประมาณครึ่งหนึ่งของชาดำ (ประมาณ ¼ ของกาแฟ)
- รสชาติชาเขียว : ฝาดอ่อน ๆ เค็มเล็กน้อยคล้ายสาหร่าย ไม่ค่อยขม กลิ่นหอม
- ประโยชน์ : ช่วยต้านอนุมูลอิสระ, แก้ท้องร่วง, ช่วยขับเสมหะ
- แหล่งผลิตหลัก : ประเทศญี่ปุ่นและจีน
- ควรดื่มตอนไหน ? : กลางวัน หรือระหว่างอาหาร แก้เลี่ยน
ชาอู่หลง (Oolong Tea)
ชาอู่หลง คือ ใบชาที่ผ่านการหมักบางส่วน การออกซิไดซ์เกิดขึ้นแค่บางส่วน จึงอยู่ระหว่างชาเขียวที่ไม่ผ่านหมักและชาดำที่ผ่านการหมัก โดยชาอู่หลงสามารถมีการออกซิไดซ์ตั้งแต่ 10-80% ทำให้ใบชามีสีเหลือง – น้ำตาลอมเขียว ชาอู่หลงหลายชนิดสามารถชงซ้ำได้หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันเล็กน้อย
- รสชาติชาอู่หลง : ฝาด ขมเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่แรงกว่าชาเขียว
- ประโยชน์ : ช่วยลดความเครียด, ช่วยต้านมะเร็ง, รักษาโรคเบาหวาน
- แหล่งผลิตหลัก : ประเทศจีนและไต้หวัน
- ควรดื่มตอนไหน ? : เช้า-บ่าย สามารถกระตุ้นสมอง แก้ความง่วง
ชาดำ (Black Tea)
ชาดำ คือ ใบชาที่ผ่านการหมัก เมื่อใบชาอ่อนถูกเก็บจะเข้าสู่กระบวนการลดน้ำ ทำให้อยู่ในสภาวะกึ่งสด กึ่งแห้ง แล้วนำมาบดและเข้าสู่กระบวนการหมักต่อไป ซึ่งการหมักและนำไปผ่านความร้อนเป็นขั้นตอนที่ทำให้เกิดกลิ่น รสชาติและสีน้ำตาลทองแดง-ดำที่เป็นเอกลักษณ์ ชาดำมีคาเฟอีนที่สูงสุดในหมู่ชาด้วยกันแต่ก็ยังถือว่ายังน้อยกว่ากาแฟ
- รสชาติชาดำ : ขมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกเบา นุ่ม ชุ่มคอ มีกลิ่นชัด หอมละมุน
- ประโยชน์ : ช่วยลดน้ำหนัก, ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, ช่วยป้องกันฟันผุ
- แหล่งผลิตหลัก : ประเทศจีนและอินเดีย
- ควรดื่มตอนไหน ? : กลางวัน หรือระหว่างอาหาร แก้เลี่ยน
ชาขาว (White Tea)
ชาขาวถือเป็นใบชาที่ผ่านการแปรรูปน้อยมาก ถูกเก็บเกี่ยวเฉพาะยอดอ่อนสุดที่เพิ่งแทงยอดออกมา รูปลักษณ์เหมือนเข็ม ขนสีขาวบาง ๆ ปลกคลุม ส่วนนี้จึงถูกเรียกว่า เข็มเงิน หรือ Silver Needle (ยอดชาขาวทียังตูมอยู่ ไม่บานออกรับแสงแดด) หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว เช่นตากแดดหรือผึ่งให้แห้ง ดังนั้นชาขาวจะผ่านการออกซิเดชั่นในปริมาณที่น้อยมาก ๆ ทำให้ตัวใบชามีสีเหลือง กลิ่มหอมอ่อน ๆ คาเฟอีนต่ำ
- รสชาติชาขาว : หวานอ่อน ไม่เปรี้ยว ไม่ขม มีกลิ่นดอกไม้หรือผลไม้อ่อน ๆ
- ประโยชน์ : ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์, ชะลอความแก่, ลดความเครียด
- แหล่งผลิตหลัก : ประเทศจีน (โดยเฉพาะในมณฑลฝูเจี้ยน) เนปาล ไต้หวัน และศรีลังกา
- ควรดื่มตอนไหน ? : หลังทานอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร
ชาผูเอ๋อร์ (Pu-erh Tea)
ชาผูเอ๋อร์ เป็นชาหมักย่อยบางส่วนที่พูดได้ว่ายิ่งเก็บไว้นานยิ่งล้ำค่า รสชาติดีอร่อยยิ่งขึ้น มีลักษณะคล้ายชาดำ ใบชาจะถูกเก็บเกี่ยว นึ่งหรือผัดเพื่อหยุดกระบวนการออกซิเดชัน จากนั้นจึงถูกจัดรูปทรงและทำให้แห้ง หลังจากใบชาแห้งแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการหมัก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานเป็นปี ชาผูเอ๋อร์มีสีน้ำตาลเข้มและมีรสชาติเข้มข้น มีปริมาณคาเฟอีนค่อนข้างสูง โดยมีปริมาณเทียบเท่ากับชาดำ
- รสชาติชาผูเอ๋อร์ : เข้มข้น นุ่มนวลและไม่ฝาดขม
- ประโยชน์ : ลดความเหนื่อยล้า, ส่งเสริมการย่อยอาหาร, ลดความเครียด
- แหล่งผลิตหลัก : ประเทศจีน
- ควรดื่มตอนไหน ? : ระหว่างวัน ไม่ควรดื่มตอนกลางคืน
ชาสมุนไพร (Herbal Tea)
ชาสมุนไพร คือ เครื่องดื่มที่นำสมุนไพรที่ผ่านการแปรรูปด้วยการทำให้แห้ง นำมาผสม ต้ม ชงกับใบชา ซึ่งสมุนไพรที่เป็นที่นิยมนำมาชงกับชาได้แก่เก๊กฮวย ขมิ้น มะตูม มาขามป้อม ผลหม่อน เลือดมังกร และอัญชัน
- รสชาติชาสมุนไพร : ขึ้นอยู่กับสมุนไพรที่นำมาชง
- ประโยชน์ : ช่วยย่อยอาหาร, ช่วยลดอัตราการเสี่ยงการเกิดมะเร็ง, ต้านการอักเสบและโรคภูมิแพ้
- ควรดื่มตอนไหน ? : ระหว่างวันหรือช่วงเย็น (เฉพาะชาที่ไม่มีคาเฟอีน)
จะเห็นได้ว่าชาสามารถแบ่งออกมาได้หลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการปลูก ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว ฤดูกาล การหมัก ระยะเวลาการหมัก และอื่น ๆ ความต่างเหล่านี้สร้างสี และรสชาติที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ทำให้ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครต้องการลิ้มรสชาติของชาหลากหลายประเภท สามารถมาดื่มได้ที่คาเฟ่ปาปิเป้ของเราได้เลย!